วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


ผัดซีอิ๊วทะเล

ส่วนประกอบ

  • เส้นใหญ่ 2 ถ้วยตวง
  • กุ้งสดปอกเปลือก ¼ ถ้วยตวง
  • ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำ ¼ ถ้วยตวง
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • คะน้าฮ่องกงหั่นชิ้นพอคำ 2 ถ้วยตวง
  • แครอทหั่นแว่นบาง ¼ ถ้วยตวง
  • ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ ¼ ถ้วยตวง
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วดำ ½ ช้อนชา
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  • นำเส้นใหญ่กับซีอิ๊วดำมาคลุกเข้าด้วยกันแล้วพักไว้
  • ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ พอร้อนใส่กระเทียมผัดพอหอม จากนั้นใส่ปลาหมึกและกุ้ง ผัดพอสุก แล้วนำไข่ลงไปผัดพอสุก
  • นำน้ำมันที่เหลืออีก 1 ช้อนโต๊ะใส่ลงไป แล้วนำเส้นที่คลุกซีอิ๊วไว้ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย คนอร์อร่อยชัวร์ และน้ำตาล
  • ผัดจนคะน้าสุกและส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน นำมาใส่จานพร้อมเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยพริกไทย
  • หมายเหตุ หากชอบทานรสจัดสามารถปรุงรสด้วยพริกป่น และน้ำส้มสายชูเพิ่���ได้
ผัดซีอิ๊วทะเล








ผัดไทยกุ้งสด

   เครื่องปรุง + ส่วนผสม


* กุ้งสด 12 ตัว (ทำความสะอาด, ปอกเปลือก)
ถั่วงอกสด* เส้นจันท์ (หรือเส้นเล็ก) 90 กรัม
* ถั่วงอก 50 กรัม
* ใบกุ้ยช่าย 2 ช้อนโต๊ะ (หั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว)
* น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันหอย 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำส้มสายชู)

* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวไชโป้ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วลิสงบด 2 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ 2 ฟอง
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบรสจัด)
* มะนาว 1/2 ลูก


วิธีทำทีละขั้นตอน
1. กรณีใช้เส้นชนิดแห้ง ให้นำเส้นไปแช่น้ำธรรมดา (อุณหภูมิห้อง) ประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่กุ้งลงไปผัดจนเริ่มสุก ตอกใส่ไข่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวเขี่ยให้ไข่แดงแตก พอไข่เริ่มสุก ใส่เส้น, น้ำตาล, ถั่วลิสงและ หัวไชโป้ว ผัดจนเส้นเริ่มนุ่มและเครื่องปรุงทั้งหมดผสมกันทั่ว
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมันหอย และน้ำมะขาม (หรือน้ำส้มสายชู) ใส่ถั่วงอก, หัวไชโป้วและพริกป่น (ถ้าชอบรสจัด) ผัดอย่างรวดเร็วให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว ตักใส่จาน จัดแต่งด้วยถั่วงอกสด, พริกป่น, และมะนาว ข้างจาน ควรเสิรฟขณะยังร้อน





อาหารไทย : ผัดไทยกุ้งสด                         
อาหารไทย : ผัดไทยกุ้งสด







อ้างอิง... 






วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


ยำวุ้นเส้นใส่หมูยอ

ในบ้านมีกันอยู่ 2 คน ฝนก็ตกหนักค่ะ อากาศพาให้ง่วงดีจริงๆ เลยนอนจนลืมเวลา ตื่นมาอีกทีก็บ่ายสามเข้าให้แล้ว ท้องเริ่มร้องค่ะ เลยต้องลงมือเข้าครัวทำอาหาร สิ่งที่จะทำในวันนี้ก็คือ ยำวุ้นเส้น มีกุ้ง มีหมูยอด้วยค่ะ น่าอร่อยมากจริงๆ อันนี้ทำกินกันสองคน อิ่มมากค่ะ ขนาดไม่ได้กินกับข้าวนะเนี่ย





วัตถุดิบและสัดส่วน:
1. วุ้นเส้น 2 ห่อ
2. หมูยอ 1 แท่ง
3. กุ้ง 6 ตัว
4. มะเขือเทศ 1 ลูกใหญ่
5. หัวหอมใหญ่ 1/2 ลูก
6. ขึ้นฉ่ายสับ 1/2 ถ้วย
เครื่องปรุง:
1. พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการปรุง:
1. ก่อนทำทุกสิ่งทุกอย่าง เอาวุ้นเส้นมาแช่น้ำให้นิ่มก่อนค่ะ
2. ตั้งน้ำให้เดือด ระหว่างรอ หั่นหมูยอเป็นแว่นๆแล้วหั่นครึ่งอีกที แล้วนำหมูยอและกุ้งลงไปลวกให้สุก ตักขึ้นพักไว้
3. นำวุ้นเส้นขึ้นมาจากน้ำ แล้วนำมาลวกให้สุก อย่านานเกินไปจนวุ้นเส้นเละ ตักขึ้นพักไว้
4. ละลายน้ำตาลทรายกับน้ำปลาและน้ำมะนาว คนให้เข้ากันแล้วใส่พริกขี้หนูสับลงไป
5. นำวุ้นเส้น หมูยอ กุ้ง ใส่ในชามผสม ราดน้ำยำลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
6. ใส่หอมใหญ่ซอย มะเขือเทศ ขึ้นฉ่ายสับลงไปคลุกเคล้าใก้เข้ากันอีกครั้งก่อนตักแบ่งใส่จาน
เคล็ดลับ:
จริงหรือวุ้นเส้นกินแล้วไม่อ้วน?

แม้วุ้นเส้นจะทำมาจากแป้งถั่วเขียว ซึ่งถือเป็นพืชที่มีโปรตีนสูง แต่ในการผลิตวุ้นเส้นนั้นมิได้มีการนำโปรตีนของถั่วเขียวมาใช้ในกระบวนการผลิตวุ้นเส้นด้วย วุ้นเส้นจึงจัดเป็นอาหารประเภทคาโบไฮเดรต เช่นเดียวกับเส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดอื่นๆ ที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า หรือแม้แต่เมื่อเทียบกับข้าวสวยก็แทบไม่ต่างกัน เนื้อจากวุ้นเส้นประกอบด้วยส่วนที่เป็นแป้ง 86.8% ในขณะที่ข้าวประกอบด้วยแป้ง 89.6%
อย่างไรก็ตาม การรับประทานวุ้นเส้นเพื่อลดน้ำหนักนั้นก็ไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผลซะทีเดียว เนื่องจากปริมาณพลังงานที่ได้รับจากวุ้นเส้นยังคงน้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายได้รับจากการรับประทานเส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดอื่นๆ หากเปรียบเทียบในปริมาณเท่ากัน เส้นใหญ่ 100 กรัม ให้พลังงาน 160 กิโลแคลอรี เส้นเล็กให้พลังงาน 220 กิโลแคลอรี บะหมี่ให้พลังงาน 298 กิโลแคลอรี ในขณะที่วุ้นเส้น 100 กรัม ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่เท่านั้น แต่ก็อย่าลืมว่าการรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไปก็ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก แต่ควรรับประทานให้พอเหมาะประกอบกับการออกกำลังกายไปด้วยนะคะ





อ้างอิง : http://men.mthai.com




วิธีทำ ผัดกระเพราหมูสับ

เมื่อพูดถึง ผัดกระเพราะ คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักใช่ไหมล่ะค่ะ แม้ว่าหลาย ๆ คนจะพูดติดปากเวลาสั่ง ผัดกระเพราะ ทานว่าเป็น อาหารสิ้นคิดก็ตามที แต่หารู้ไม่ว่า ผัดกระเพรา นั่นอร่อยแค่ไหนถึงได้ต้องสั่งทานกันเป็นประจำ แต่วันนี้เราก็มีสูตรผัดกระเพราหมูสับมาฝากกันด้วยนะค่ะ เพื่อให้คนที่อยากจะลองทำ ผัดกระเพราหมูสับ กินเองที่บ้านได้อย่างง่ายดายค่ะ นั้นเราก็มาดูเครื่องปรุงรสผัดกระเพราหมูสับกันได้เลยพร้อมกับขั้นตอนและวิธีทำผัดกระเพราหมูสับกันค่ะ
วิธีทำ ผัดกระเพราหมูสับ


เครื่องปรุงรส ผัดกระเพราหมูสับ


พริกขี้หนูแดง 5 เมล็ด
กระเทียม 7 กรีบใหญ่
หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว
ใบกระเพรา 1 กำมือ
เนื้อหมูสับ 1 ขีด หรือ 1000 กรัม
เนื้อหมูชิ้น 1/2 ขีด หรือ 500 กรัม
น้ำมันพืช 1 ทัพพี
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าสะอาด 1/2 ทัพพี


วิธีทำและขั้นตอน ผัดกระเพราหมูสับ


- ขั้นตอนแรก ให้นำพริกขี้หนูแดงและกระเทียมปลอกเปลือกตำรวมกันพอละเอียดแบบหยาบ จากนั้นให้หั่นหัวหอมใหญ่ครึ่งหัวตามยาวและเด็ดใบกระเพราให้ได้ 1 กำมือแล้วล้างไว้

- ขั้นตอนที่สอง ให้ตั้งกระทะให้ร้อนใช้ไฟปานกลางใส่น้ำมันพืชที่เตรียมไว้ จากนั้นตามด้วยพริกขี้หนูแดงและกระเทียมที่ตำรวมกันไว้แล้วเทลงในกระทะทั้งหมดผัดสองทีแล้วตามด้วยเนื้อหมูสับและเนื้อหมูชิ้นที่เตรียมไว้ (หากไม่ใส่เนื้อหมูชิ้นให้ใช้เนื้อหมูสับ 1 ขีดครึ่ง ที่ใส่เนื้อหมูชิ้นด้วยเพื่อจะช่วยเพิ่มสีสันให้น่ารักประทานมากยิ่งขึ้น) จากนั้นผัดหมูให้พอเริ่มสุกใสหอมหัวใหญ่ผัดสองทีแล้วเริ่มปรุงรสด้วยซอสน้ำมันหอย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทรายขาว แล้วผัดให้เค้ากันจากนั้นใสน้ำเปล่าสักเล็กน้อยหรือก็คือครึ่งทัพพีนั่นเองค่ะ จากนั่นผัดต่อให้สุกและเค้ากันดีปิดไฟยกลงจากเตาจัดใส่จานเป็นอันเรียบร้อยแล้วค่ะ




อ้างอิง...http://www.n3k.in.th 



สูตรข้าวผัดหมู และวิธีผัดข้าวให้อร่อย

    สูตรอาหารไทย ข้าวผัดหมู เมนูอาหารนี้อาจฟังดูเป็นอาหารพื้นๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะหาข้าวผัดหมูอร่อยๆถูกใจนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน ปกติแล้วมักจะเจอแบบพอกินได้เท่านั้น ทั้งที่วิธีทำข้าวผัดหมูนั้นสามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเลย แต่ทำไมความอร่อยและน่าทานจึงแตกต่างกัน คุณอยากรู้ไหม? …เคล็ดลับของข้าวผัดหมูนั้นอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ปรุง ว่าจะเพิ่มเสริมรสอย่างไรให้ถูกใจถูกปากผู้บริโภค และที่สำคัญข้าวผัดจะต้องแห้งหมาด รสชาติเข้มข้น สีสันสวยงาม และสิ่งหนึ่งที่ชวนให้รับประทานนั้น ได้มาจากผักและเครื่องปรุงที่เสริมลงไป นอกจากแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแล้วยังให้รสชาติเลิศถูกอดถูกใจได้ไม่ยากอีกด้วย


เครื่องปรุง
  1. ข้าวสวย (ไม่แฉะ) ¾ ถ้วยตวง
  2. หมูสับ 50 กรัม
  3. หมูแฮมหั่นเป็นเส้นฝอย 1 แผ่น
  4. หมูยอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมสับ 8 กลีบ
  6. แครอทหั่นเป็นเส้นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. มะเขือเทศผ่าตามยาว 1 ลูก
  8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  10. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  12. ซอสปรุงรสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
  13. มะนาว 1 ซีก
  14. แตงกวา ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น
(ถ้าบางอย่างไม่มีไม่เป็นไรครับ ใส่อย่างอื่นแทนได้ หรือถ้ามีแค่ข้าวกะไข่ ก็พอกล้อมแกล้มได้เหมือนกัน)

วิธีทำ
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้เหลือง
2. จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหมูแฮมและหมูยอลงไปผัด
3. เสร็จแล้วใส่ข้าวสวยลงผัดให้ส่วนผสมเข้ากันจึงใส่แครอทและมะเขือเทศลงไปผัด ปรุงด้วยซอสปรุงรส และซีอิ๊วขาวผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน จากนั้นใช้ตะหลิวดันข้าวผัดขึ้นไปอยู่ข้างๆกระทะ เว้นที่ก้นกระทะไว้ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่ให้แตก จากนั้นตักข้าวที่อยู่ข้างกระทะกลบทับไข่ไว้ รอจนไข่สุกแล้วจึงช้อนกลับให้ไข่อยู่ด้านบน ใส่น้ำมันหอยลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ตักใส่จาน จัดเรียงแตงกวาและมะนาวไว้ข้างๆจานเสิร์ฟได้ทันที

เคล็ดลับวิธีทำข้าวผัดให้อร่อย
  • สิ่งสำคัญ ข้าวสวยที่ใช้ผัดต้องไม่แฉะ นอกจากนี้ เมื่อข้าวสุกใหม่ร้อนๆ ควรเกลี่ยใส่ถาด ให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัด ข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน 
  • น้ำมันไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้แฉะและเลี่ยน ไม่น่ากิน 
  • ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าวพอผัดข้าวจนทั่วเกลี่ยข้าวไว้อีกด้าน หนึ่งต่อยไข่ใส่กลบข้าวบนไข่พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี 
  • “กระทะ” เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆเหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมือใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ “ตะหลิว” ก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อน
  • พวกผักต่างๆนั้น ควรหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือชิ้นเล็กๆ จะช่วยทำให้ข้าวผัดอร่อยกว่าใส่ชิ้นใหญ่ เช่น หอมใหญ่ คะน้า แครอท มะเขือเทศ ต้มหอม หั่นชิ้นเล็ก







ก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรอร่อยเด็ด

"ก๋วยจั๊บน้ำข้น" อีกเมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยเด็ดและได้คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนในจานเดียว เอกลักษณ์ของก๊วยจั๊บน้ำข้นนั้นอยู่ที่เครื่องมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นหมูกรอบ ไส้หมู ตับหมู ปอดหมู เต้าหู้ทอด ไข่ต้ม ปอด และหนังหมู และก๋วยจั๊บก็เป็นเช่นเดียวกับก๋วยเตี๋ยว สามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้นปรุงรสอีกนิดหน่อยหรือแทบไม่ต้องปรุงเลย จึงทำให้ถูกปากถูกใจได้ไม่ยาก ที่มีสูตรก๋วยจั๊บน้ำข้นดังนี้...


เครื่องปรุง
  1. เส้นก๋วยจั๊บ 1 กิโลกรัม
  2. ตับหมู ½ กิโลกรัม
  3. ไส้ใหญ่หมู ½ กิโลกรัม
  4. ปอดหมู 2 พวง
  5. หนังหมู ½ กิโลกรัม
  6. เต้าหู้ทอด 2 พวง
  7. หมูกรอบชิ้นยาว 2 ชิ้น
  8. พริกไทยขาวเป็นเม็ด 30 เม็ด
  9. แป้งข้าวเจ้า 10 ช้อนโต๊ะ
  10. ไข่ต้ม 20 ฟอง
  11. กระเทียมบุบ 6 หัว
  12. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  13. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  14. ซ๊อิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  15. ซิ๊วดำ ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ก่อนอื่นให้เตรียมเส้นก๋วยจั๊บก่อน โดยการนำเส้นก๊วยจั๊บมาต้มกับน้ำซุปจนกระทั่งเส้นนิ่มได้ที่แล้วให้นำแป้งข้าวเจ้ามาละลายกับน้ำใส่ลงเคี่ยวในหม้อให้ข้นแต่อย่าให้เหนียว ปิดไฟพักไว้
2. จากนั้นหันมาทำน้ำพะโล้ด้วยการต้มน้ำ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวสักครู่พอให้หวานน้ำต้มกระดูกหมู จากนั้นให้ใส่โป๊ยกั๊ก รากผักชี อบเชย พริกไทยเม็ด กระเทียมบุบพอแหลก เกลือ น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ ตามด้วยเครื่องในหมู ได้แก่ ตับหมู ปอดหมู หนังหมู และไข่ต้มลงไป เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อน รอจนตับหมูเริ่มสุกให้ตักขึ้นมาก่อน เนื่องจากตับจะเป็นส่วนที่สุกเร็วที่สุด นอกนั้นให้เคี่ยวต่อไปจนเปื่อยแล้วจึงค่อยตักขึ้นมาใส่ในภาชนะเตรียมขาย หรือจะนำใส่ในตะแกรงโลหะแขวนไว้บนหม้อต้มให้ได้รับความร้อนตลอดเวลาก็ได้เพียงเท่านี้ก็ได้ก๋วยจั๊บรสเด็ดแล้ว








ชื่อ  :  นางสาว นิศาชล สีวงษ์สา

ชื่อเล่น   :  นิ

วัน/เดือน/ปี  :  29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540

อายุ 16 ปี        กรุ๊ป  :   บี

ที่อยู่อาศัย   :  132/4 หมู่ 1 ตำบล เนินทราย อำเภอ เมือง จังหวัด ตราด 23000

งานอดิเรก  :  ฟังเพลง

สีที่ชอบ  :  สีฟ้า

อนาคตอยากเป็น  :  ผู้ใหญ่

คติ  :  แล้วเป้นง่ะ !!